ตรวจตรอ. ไม่ผ่านต้องทำอย่างไร?
การตรวจสภาพรถที่ตรอ. เป็นขั้นตอนที่เจ้าของรถหลายคนต้องผ่าน โดยเฉพาะรถที่มีอายุเกิน 5 ปี (มอเตอร์ไซค์) หรือ 7 ปี (รถยนต์) แต่ถ้าเกิดตรวจไม่ผ่านขึ้นมาจะทำยังไงดี? ต้องเสียเงินใหม่หรือเปล่า? บทความนี้มีคำตอบพร้อมวิธีแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน ไม่ต้องเสียเวลา และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น
สาเหตุที่ทำให้รถไม่ผ่านตรอ.
การตรวจตรอ. มีหลายจุดที่เจ้าหน้าที่ใช้พิจารณาว่ารถของคุณ “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน” เช่น
- ระบบเบรกไม่สมบูรณ์หรือเบรกไม่อยู่
- ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟเบรกไม่ติด
- ควันดำหรือมลพิษจากไอเสียเกินมาตรฐาน
- เสียงจากท่อไอเสียดังเกินค่าที่กฎหมายกำหนด
- โครงสร้างรถชำรุด มีสนิมรุนแรง
- เลขตัวถังหรือเลขเครื่องยนต์ไม่ตรงกับเล่มทะเบียน
เมื่อไม่ผ่าน ต้องทำอย่างไร?
- รับใบแจ้งผลตรวจจากตรอ.
คุณจะได้รับเอกสารที่ระบุว่ารถไม่ผ่านในจุดใดบ้าง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการแก้ไข - นำรถไปซ่อมแซมตามจุดที่ไม่ผ่าน
ควรเลือกร้านซ่อมที่มีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะถ้าเกี่ยวข้องกับเบรก พวงมาลัย หรือท่อไอเสีย - กลับมาตรวจซ้ำภายใน 7 วัน
ส่วนใหญ่ตรอ.จะไม่คิดค่าตรวจซ้ำ ถ้ากลับมาตรวจใหม่ภายในระยะเวลาที่กำหนด
(อาจแตกต่างกันในแต่ละสถานที่ แนะนำให้สอบถามก่อน) - หากเกินกำหนด ต้องตรวจใหม่และชำระค่าใช้จ่ายอีกครั้ง
ดังนั้นควรวางแผนให้ดี เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ควรตรวจเช็กรถเบื้องต้นก่อนนำไปตรอ. เช่น ตรวจไฟ, ตรวจเบรก, ดูควันไอเสีย
- หากไม่มั่นใจ ให้ลองเข้าร้านเช็กระยะทั่วไปก่อนตรวจตรอ.
- หมั่นดูแลรักษารถตามระยะอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงในการ “ไม่ผ่าน” ได้มาก
สรุป
การตรวจตรอ.ไม่ผ่านไม่ใช่เรื่องใหญ่ หากรู้วิธีจัดการอย่างถูกต้อง แค่ซ่อมให้ตรงจุด กลับมาตรวจใหม่ให้ทันภายในเวลา ก็สามารถผ่านการตรวจได้ไม่ยาก อย่ารอให้ถึงวันหมดอายุค่อยตรวจ เพราะหากไม่ผ่านแล้วไม่มีเวลาแก้ อาจต่อทะเบียนไม่ทันและมีผลกับการใช้รถบนถนนได้
แกลเลอรี่