ถามตอบ
-
Q : สหการประมูล มีบริการอะไรบ้าง
สหการประมูลให้บริการเป็นตัวกลางในการจัดประมูลขายทรัพย์สิน อาทิเช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก รถเพื่อการเกษตร หรือยานพาหนะทุกประเภท นอกจากนี้ยังรับจัดประมูลอสังหาริมทรัพย์ สินค้าแบรนด์เนม เครื่องประดับ เป็นต้น
-
Q : มีวีธีการประมูล แบบไหนบ้าง
การประมูลรถของสหการประมูลใช้วิธีการประมูลโดยการยกมือเสนอราคา ผู้ดำเนินการประมูล (โฆษก) จะขานราคาตามที่มีผู้ยกมือแสดงความต้องการซื้อ ซึ่งลูกค้าสามารถมาร่วมประมูลที่ลานประมูลได้ด้วยตนเอง หรือจะทำการประมูลผ่านระบบ E-Auction ก็ได้ ***สนใจสมัครลงทะเบียนประมูล E-Auction ติดต่อฝ่ายการเงิน 02-934-7345
-
Q : จะเริ่มประมูลต้องทำอย่างไร
1. ผู้ซื้อควรตรวจสภาพรถและข้อมูลรถที่ตัวรถก่อนทำการประมูล
2. ผู้เข้าร่วมประมูลต้องมัดจำค่าป้ายหมายเลขผู้ประมูล 20,000 บาท ด้วยเงินสด หรือ แคชเชียร์เช็ค -
Q : รถรถยนต์ / จักรยานยนต์ ที่นำมาจัดประมูล มาจากไหน
1. ธนาคาร สถาบันการเงิน หรือบริษัทไฟแนนซ์ที่ปล่อยสินเชื่อแล้วผู้เช่าซื้อไม่ปฏิบัติตามระเบียบการผ่อนชำระจึงถูกยึดทรัพย์สินและนำมาประมูลขายทอดตลาดอย่างถูกกฏหมาย
2. รถเช่า หรือรถใช้งานของบริษัทเอกชน ห้างร้านต่างๆ
3. หน่วยงานภาครัฐที่ต้องการนำทรัพย์สินของกลางออกขายทอดตลาด เช่น กรมศุลกากร, ปปง., ปปส.
4. รถจากบุคคลทั่วไปที่นำมาฝากขาย
-
Q : ดูรายการประมูล รถยนต์ / จักรยานยนต์ ได้จากที่ไหน
ลูกค้าสามารถรับข่าวสารการประมูลและตรวจสอบรายการรถล่วงหน้าได้จาก
- เวปไซด์ www.auct.co.th
- Line : AUCT@Official
-
Q : ถ้าสนใจ รถยนต์ / จักรยานยนต์ ที่เข้าประมูล แต่ตรวจสอบสภาพ รถยนต์ / จักรยานยนต์ ไม่เป็นต้องทำอย่างไร
ขอแนะนำให้ลูกค้าพาช่างยนต์หรือคนไว้ใจที่มีความรู้เรื่องการดูรถมาตรวจสอบสภาพก่อนทำการประมูลได้ หรือสามารถสอบถามและขอคำปรึกษาในเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ของสหการประมูลได้
-
Q : กฎกติกา การประมูล รถยนต์ / จักรยานยนต์
ระเบียบการประมูลรถยนต์
1. ผู้ซื้อควรตรวจสภาพรถและข้อมูลรถที่ตัวรถก่อนทำการประมูล
2. ผู้เข้าร่วมประมูลต้องมัดจำค่าป้ายหมายเลขผู้ประมูล 20,000 บาท ด้วยเงินสด หรือ แคชเชียร์เช็ค
3. กรณีต้องการจัดไฟแนนซ์หรือเช่าซื้อกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายเช่าซื้อ(ไฟแนนซ์) ก่อนทำการประมูลทุกครั้ง
4. แสดงเจตนาการซื้อรถยนต์ด้วยวิธียกป้ายหมายเลขประมูลเท่านั้น (ถ้าแสดงโดยวิธีอื่น โฆษกจะไม่นับขายให้) โดยเริ่มการประมูลจากราคากลาง ซึ่งหากผู้เข้าประมูลเสนอซื้อมากกว่า 1 ราย
•โฆษกจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 2,000 บาท กรณีที่ราคาเริ่มต้น 1-999,999 บาท
•โฆษกจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 10,000 บาท กรณีที่ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไปและ ผู้เสนอซื้อในราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล5. ผู้ชนะการประมูลต้องลงลายมือชื่อในเอกสารหลักฐานการประมูลและมีเจ้าหน้าที่พาไปชำระเงินมัดจำ
6. กรณีที่ประมูลรถยนต์ได้ ต้องชำระเงินดังนี้
6.1 ชำระเงินในวันประมูล
• วางเงินมัดจำ 10%ของราคารถยนต์ที่ประมูลได้ โดยชำระเงินเป็นเงินสด หรือบัตรเครคดิตวีซ่าการ์ด,บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิตจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรเครดิตเป็นเงินสด)
• ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของเงินมัดจำ (กรณีรถที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม)
• ค่าดำเนินการ 9,630 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
• ค่าดำเนินการ รถ 6 ล้อ ขึ้นไป 10,700 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
6.2 ชำระเงินส่วนที่เหลือภายในวันพฤหัสบดีก่อน 12.00 น.7. ผู้ประมูลได้ตรวจสอบสภาพรถยนต์ และ อุปกรณ์ประจำรถยนต์ภายหลังการประมูล โดยบริษัท สหการประมูล จะออกใบตรวจสภาพรถแก่ท่านเป็นหลักฐานเพื่อใช้ยืนยันในวันรับรถ กรณีที่ท่านไม่ยอมตรวจสภาพรถยนต์ บริษัทฯถือว่าท่านสละสิทธิ์การเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้น
8. ผู้ชนะการประมูลมีความประสงค์ขอเปลี่ยนชื่อผู้ซื้อหลังจากหนังสือสัญญาออกแล้ว บริษัทฯจะเปลี่ยนให้ หากมีเหตุผลอันสมควรโดยคิดค่าใช้จ่ายดังนี้
- รถที่ประมูลได้ราคาจบน้อยกว่า 10,000 บาท ต้องชำระค่าเปลี่ยนชื่อผู้ประมูลคันละ 3,000 บาท ต่อการเปลี่ยนชื่อ 1 ครั้ง
-รถที่ประมูลได้ราคาจบตั้งแต่ 10,000 บาท ต้องชำระค่าเปลี่ยนชื่อผู้ประมูลคันละ 30% ของราคาจบการประมูล9. ผู้ประมูลรถยนต์ได้จะต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียม, ค่าภาษี, ค่าปรับ, ค่าจดทะเบียนในการขอใช้รถใหม่ (กรณีรถยนต์ที่ประมูลได้มีการแจ้งหยุดการใช้รถไว้) และเงินเพิ่มภาษีนิติบุคคล (รถ-ประมูลแบบนิติบุคคลและประมูลแบบรถด่วนที่โอนไม่เกิน 2 ต่อ ถ้ามี) รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนโอนและการรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์
10. กรณีที่ผู้ซื้อประมูลรถยนต์ได้และไม่ปฏิบัติตาม ข้อ 5 , ข้อ 6.1 บริษัทฯ ถือว่าท่านมีเจตนาก่อกวน และทำให้เกิดความเสียหายกับบริษัทฯ และผู้ประมูลซื้อคนอื่น บริษัทฯจะดำเนินการกับท่านตามที่บริษัทฯ เห็นสมควร
เล่มทะเบียนของรถนิติบุคคล ท่านที่ประมูลได้จะได้เล่ม ประมาณ 30 วัน
เล่มทะเบียนของรถบุคคลทั่วไป ท่านที่ประมูลได้จะได้เล่ม ประมาณ 15 วันระเบียบการประมูลรถจักรยานยนต์
1. ผู้ซื้อควรตรวจสภาพรถและข้อมูลรถมอเตอร์ไซค์ก่อนทำการประมูล
2. ผู้เข้าร่วมประมูลต้องมาลงทะเบียน พร้อมวางเงินประกัน(ค่าป้ายหมายเลขผู้ประมูล) จำนวน 5,000 บาท ประมูลไม่ได้สามารถรับเงินประกันคืนได้ในวันเดียวกัน
3. แสดงเจตนาการประมูลซื้อรถจักรยานยนต์ด้วยวิธียกป้ายหมายเลขประมูลเท่านั้น (ถ้าแสดงโดยวิธีอื่น โฆษกจะไม่นับขายให้) โดยเริ่มการประมูลจากราคากลาง ซึ่งหากผู้เข้าประมูลเสนอซื้อมากกว่า 1 ราย โฆษกจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 1,000 บาท และ ผู้เสนอซื้อในราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล
4. ผู้ชนะการประมูลต้องลงลายมือชื่อในเอกสารหลักฐานการประมูล และมีเจ้าหน้าที่พาไปชำระเงินมัดจำ
5. กรณีที่ประมูลรถจักรยานยนต์ได้ ต้องชำระเงินดังนี้
5.1 ชำระเงินในวันประมูล
• วางเงินมัดจำ 10% ของราคารถที่ประมูลได้ หรือขั้นต่ำ 5,000 บาท โดยชำระเงินเป็นเงินสด หรือบัตรเครคิตวีซ่าการ์ด ,บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด (กรณีชำระด้วยบัตรเครคิต จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรเครดิตเป็นเงินสด)
• ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของเงินมัดจำ (กรณีรถที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม)
• ค่าดำเนินการ 1,605 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
5.2 ชำระเงินส่วนที่เหลือภายในวันพฤหัสบดีก่อน 12.00 น.6. ผู้ชนะการประมูลมีความประสงค์ขอเปลี่ยนชื่อผู้ซื้อหลังจากหนังสือสัญญาออกแล้ว บริษัทฯจะเปลี่ยนให้ หากมีเหตุผลอันสมควรโดยคิดค่าใช้จ่ายดังนี้
- รถที่ประมูลได้ราคาจบน้อยกว่า 10,000 บาท ต้องชำระค่าเปลี่ยนชื่อผู้ประมูลคันละ 3,000 บาท ต่อการเปลี่ยนชื่อ 1 ครั้ง
-รถที่ประมูลได้ราคาจบตั้งแต่ 10,000 บาท ต้องชำระค่าเปลี่ยนชื่อผู้ประมูลคันละ 30% ของราคาจบการประมูล7. ผู้ประมูลได้จะต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียม, ค่าภาษี, ค่าปรับ, ค่าจดทะเบียนในการขอใช้รถใหม่ (กรณีรถมอเตอร์ไซค์ที่ประมูลได้มีการแจ้งหยุดการใช้รถไว้) และ เงินเพิ่มภาษีนิติบุคคล (รถประมูลแบบนิติบุคคลที่โอนไม่เกิน 2 ต่อ ถ้ามี) รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนโอนและการรับโอนกรรมสิทธิ์รถจักรยานยนต์
8. กรณีที่ผู้ซื้อประมูลรถได้และไม่ปฏิบัติตาม ข้อ 4, ข้อ 5.1 บริษัทฯ ถือว่าท่านมีเจตนาก่อกวน และทำให้เกิดความเสียหายกับบริษัทฯ และผู้ประมูลซื้อคนอื่น บริษัทฯจะดำเนินการกับท่านตามที่บริษัทฯ เห็นสมควร
* เล่มทะเบียนของรถจักรยานยนต์ ท่านที่ประมูลได้จะได้เล่มทะเบียนและชุดโอน ประมาณ 30 วัน
-
Q : อยากนำรถยนต์ / จักรยานยนต์ เข้ามาฝากขายได้หรือไม่ และเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
ผู้ที่ต้องการนำรถยนต์ / รถจักรยานยนต์ มาฝากขายสามารถนำรถพร้อมเล่มทะเบียนมาติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายได้ทุกวัน ซึ่งสหการประมูลจะทำการตรวจสภาพรถและตีราคาให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
-
Q : เมื่อประมูลได้แล้วต้องทำอย่างไร
ชำระเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมดซึ่งประกอบด้วย
1. ราคารถที่จบประมูล
2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% 3
3. ค่าดำเนินการ (รถยนต์คันละ 9,630 บาท / รถจักรยานยนต์คันละ 1,605 บาท)
4. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น ค่าขนย้าย, ค่าเช็คต้น, ค่ากุญแจ, ค่าธรรมเนียมหรือเบี้ยปรับที่คงค้างอยู่ ซึ่งจะมีข้อมูลแจ้งให้ทราบในใบรายการ
วิธีชำระ ชำระเป็นเงินสด หรือเงินโอน แบ่งเป็น 2 วิธี ดังนี้
1. ชำระ 100% เมื่อชำระเงินครบ 100% ในวันประมูล ลูกค้าสามารถรับรถกลับได้ทันที
2. ชำระ 10% ชำระเงิน 10% ของราคาทั้งหมด ภายในวันประมูลแล้วชำระส่วนที่เหลืออีก 90% ภายใน 3 วัน นับจากวันประมูล จึงจะสามารถรับรถกลับได้
**เล่มทะเบียนและชุดโอน สามารถติดต่อรับได้ภายใน 1-30 วัน นับจากวันประมูล
-
Q : ช่องทางการชำระเงิน มีกี่ช่องทาง
-
Q : ประมูลแต่ละครั้ง มีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ อะไรบ้าง
รายละเอียดค่าใช้จ่ายสำหรับลูกค้าที่เข้าประมูลรถยนต์ มีดังนี้
1. ผู้เข้าร่วมประมูลต้องมัดจำค่าป้ายหมายเลขผู้ประมูล 20,000 บาท ด้วยเงินสด หรือ แคชเชียร์เช็ค ( หากไม่สามารถประมูลรถยนต์ได้จะได้รับเงินดังกล่าวคืนได้ทันที) กรณีที่ประมูลรถยนต์ได้ ต้องชำระเงิน ดังข้อ 2.
2. วางเงินมัดจำ จำนวน 10% ของราคารถยนต์ที่ประมูลได้บวกกับค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % โดยชำระเงินเป็นเงินสด หรือบัตรเครคดิตวีซ่าการ์ด,บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิตจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรเครดิตเป็นเงินสด) ส่วนจำนวนเงิน 90 % ที่เหลือชำระผ่านบัญชีภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่ประมูลก่อนเที่ยง (12.00น.)
3. ชำระค่าดำเนินการประมูล จำนวน 9,630 บาท( รวมภาษี 7%แล้ว) ส่วนรถ 6 ล้อ ขึ้นไป 10,700 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
-
Q : ต้องเตรียมอะไรบ้าง เมื่ออยากเข้าร่วมประมูล
1. ศึกษารายละเอียดและตรวจสอบสภาพรถที่ต้องการซื้อให้มั่นใจก่อนทำการประมูล
2. ลงทะเบียนเข้าร่วมประมูล โดยเตรียมหลักฐาน ดังนี้
บุคคลธรรมดา
- บัตรประชาชนพร้อมสำเนา
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- กรณีที่ผู้ประมูลไม่ได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง ให้ใช้หนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตร ประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
นิติบุคคล
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
- สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือกรรมการบริษัทที่มีอำนาจ ลงนามผูกพันนิติบุคคล
***วางเงินประกันการเข้าร่วมประมูล (รถจักรยานยนต์ จำนวน 5,000 บาท / รถยนต์ จำนวน 20,000 บาท) หากประมูลไม่ได้สามารถรับเงินประกันคืนได้ทันทีโดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ
-
Q : มีการการันตีคุณภาพ รถยนต์ / จักรยานยนต์ ไหม
รถที่เข้าประมูลไม่มีการการันตีคุณภาพ
-
Q : เมื่อประมูล รถยนต์ / จักรยานยนต์ ได้แล้ว จะขอ คืน รถยนต์ / จักรยานยนต์ ได้ไหม
ลูกค้าจะขอคืนรถได้เฉพาะในกรณีที่ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ ด้วยสาเหตุนอกเหนือไปจากที่แจ้งให้ทราบในรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถเท่านั้น
-
Q : สถานที่ จัดประมูล ของสหการประมูล มีทั้งหมดกี่แห่ง และที่ไหนบ้าง
สหการประมูลมีลานประมูลทั้งหมด 14 แห่ง ดังนี้
1. สำนักงานใหญ่ (เหม่งจ๋าย)
2. สาขารังสิตคลอง
3. สาขาพุทธฆณฑลสาย 2
4. สาขาเชียงใหม่ (สามแยกพืชสวนโลก)
5. สาขานครราชสีมา (ตรงข้ามศูนย์พัฒนาหม่อนไหม)
6. สาขาสุราษฎร์ธานี (สี่แยกท่าทอง ตรงข้ามไทวัสดุ)
7. สาขาหาดใหญ่ (เยื้องตรงข้ามวัดคงคาเลียบ)
8. สาขาอุดรธานี (ริมสวนสาธารณะหนองบัว)
9. สาขาอุบลราชธานี (เมืองวัสดุ ถ.วารินชำราบ-ศรีสะเกษ)
10. สาขาพิษณุโลก (สี่แยกอินโดจีน ติดไทวัสดุ)
11. จังหวัดชลบุรี Big C พัทยาใต้
12. จังหวัดระยอง Big C
13. จังหวัดขอนแก่น (ตรงข้ามหมู่บ้านศุภาลัยรอยัล ท่าพระ)
14. จังหวัดราชบุรี Big C บ้านโป่ง
-
Q : มีการจัดประมูลวันไหนบ้าง และจะทราบได้อย่างไร ว่าจัดประมูล ที่ไหน
ลูกค้าสามารถรับข่าวสารการประมูลและตรวจสอบรายการรถล่วงหน้าได้จาก
- เวปไซด์ www.auct.co.th
- Line : AUCT@Official
-
Q : อยากประมูล Online ต้องทำอย่างไร
1. ผู้ที่ต้องการประมูลผ่านระบบ AUCTion Live Pro ต้องกรอกใบสมัครการประมูล AUCTion Live Pro ตามแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนดโดยบริษัทจะพิจารณาคุณสมบัติของท่านตามเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
2. การสมัครสมาชิกประมูล AUCTion Live Pro ท่านต้องชำระเงินค่าสมัครสมาชิกผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด โดยให้นำหลักฐานการชำระเงินจากธนาคารมาแนบกับใบสมัครตัวจริง โดยกำหนดเงื่อนไขวงเงินที่จะได้รับดังนี้
- กรณีลูกค้ารายใหม่ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ยังไม่เคยประมูลกับบริษัท ให้ลูกค้าชำระเงินค่ามัดจำ 20% ของวงเงินที่จะสามารถประมูลได้ (วงเงิน 5 เท่า ของเงินที่วางมัดจำ)
- กรณีชาวต่างชาติ ให้ลูกค้าชำระเงินค่ามัดจำ 20% ของวงเงินที่จะสามารถประมูลได้ (วงเงิน 5 เท่า ของเงินที่วางมัดจำ)
- กรณีลูกค้ารายเดิมที่มีประวัติการชำระเงินที่ดี ถูกต้องตามเงื่อนไขของบริษัท ให้ลูกค้าชำระเงินค่ามัดจำ 10% ของวงเงินที่จะสามารถประมูลได้ (วงเงิน 10 เท่า ของเงินที่วางมัดจำ)
เอกสารประกอบการลงทะเบียนสมาชิก แบ่งเป็น
1) บุคคลธรรมดา
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- หนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (กรณีที่ไม่สามารถมาติดต่อด้วยตนเอง)
2) นิติบุคคล
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล อายุไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือกรรมการบริษัท ที่มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลทุกคน
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือกรรมการบริษัท ที่มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลทุกคน
- หนังสือมอบอำนาจ
3) บุคคลต่างชาติ
- Passport
- Work Permit (ยังไม่หมดอายุ)
หมายเหตุ สำเนาเอกสารทุกประเภทต้องมีการรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ
3. บริษัทจะส่งมอบหมายเลขสมาชิก (Member Number), รหัสผ่าน (Password), หมายเลขป้ายที่ใช้ในการประมูล และวงเงินในการประมูลให้แก่ท่านทางอีเมล์ หมายเลขสมาชิก (Member Number) ท่านไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนรหัสผ่าน (Password) ท่านสามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตนเอง ท่านต้องรักษาหมายเลขสมาชิก (Member Number) และรหัสผ่าน (Password) ไว้เป็นความลับ ท่านรับรองว่าจะไม่มอบหมายให้บุคคลอื่นทำการประมูลแทนท่าน
-
Q : การประมูล Online จะต้องมีการติดตั้ง Software อะไรไหม
ไม่จำเป็นที่จะต้องติดตั้ง Software เพียงแค่ท่านเข้าใช้งาน Web Browser Google Chrome ก็สามารถเข้าสู่ระบบ Auct Live Pro ได้ทุกที่ทุกเวลา
-
Q : การประมูล Online ใช้งานผ่านทางโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ได้หรือไม่
ใช้งานได้ ชมรูปภาพของรถที่กำลังประมูล ตรวจสอบข้อมูลรายละเอียกของรถ และสามารถกดเข้าร่วมประมูลได้ แต่ท่านจะไม่สามารถรับชมภาพและรับฟังเสียงการประมูลได้